ภาพขณะกำลังตำรวจจาก สภ.บ้านท่าเลื่อน จังหวัดตราด บุกเข้าชาร์จตัวชาย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวช โดยช่วงบ่ายวานนี้ (3 เม.ย. 64) หลังจากได้รับแจ้งจากญาติของชายคนนี้ ได้ประสานกำลังพร้อมอุปกรณ์เหล็กง่าม เดินทางไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงบริเวณบ้านหลังหนึ่งอยู่ที่หมู่บ้านบ้านท่าเส้น หมู่ 8 ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด พบชายอายุ 30 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนักตะโกนโหวกเหวกโวยวายส่งเสียงดังลั่นตลอดเวลา อีกทั้งเดินวนไปวนมาอยู่รอบบ้านไม่ยอมหยุดโดยที่ในมือถืออาวุธทั้งค้อนเหล็กและฉมวกปลายแหลมกวัดแกว่งไปมาน่าหวาดเสียว พร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เข้าไปใกล้
หลังจากที่ญาติและตำรวจพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมสารพัดวิธีนานพอสมควร แต่ชายคนนี้ก็ไม่ยอมวางอาวุธ ในที่สุดตำรวจจึงตัดสินใจใช้เหล็กง่ามบุกจู่โจมเข้าชาร์จตัวชายคนดังกล่าว แต่กว่าจะควบคุมตัวได้นั้นไม่ง่ายเนื่องจากชายคนดังกล่าวดิ้นต่อสู้ขัดขืนตลอดเวลาทำให้ตำรวจนายหนึ่งถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บไปด้วย แต่ในที่สุดชายคนนี้ก็สิ้นฤทธิ์ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด
สอบถามแม่ของชายอายุ 30 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่าลูกชายป่วยจิตเวชมานานแล้ว เคยพาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วไม่หายขาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกินยาไม่ต่อเนื่องทำให้อาการกลับมากำเริบ จนเมื่อวานนี้อาการกำเริบหนักที่สุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนถึงขั้นจะทำร้ายตนเองและคนในครอบครัว ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยต้องแจ้งตำรวจมาช่วยระงับเหตุดังกล่าว
อีกเหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี ผู้เป็นแม่เอือมระอากับพฤติกรรมของลูกชาย อายุ 33 ปี ติดยาบ้าจนงอมแงมถึงขั้นทำให้เกิดอาการประสาทหลอนข่มขู่ว่าจะฆ่าทุกคนในครอบครัวให้ตายไปตามกัน และคาดไม่ถึงว่าลูกชายจะกล้าจุดไฟเผาบ้านพักตากอากาศที่แม่สร้างไว้ให้อยู่ในเขตหมู่ 6 ตำบลบ้านเลื่อม อำเภอเมืองอุดรธานี โดยก่อเหตุเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (21 ม.ค. 64) แต่เคราะห์ดีไม่มีคนอยู่บ้าน จึงไม่มีใครได้รับอันตราย ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้วชายอายุ 33 ปี ได้หลบหนีไป
ด้วยกลัวว่าลูกชายจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ หญิงอายุ 68 ปี ผู้เป็นแม่ จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยต่อมาพนักงานสอบได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับแต่เขาหลบหนีมาโดยตลอด จึงตามจับกุมตัวไม่ได้สักที กระทั่งเมื่อวานนี้ สืบทราบว่าอายุ 33 ปี ปรากฏตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งจึงประสานกำลังบุกเข้าชาร์จตัวแต่กว่าตำรวจจะควบคุมตัวได้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากชายคนนี้ขัดขืนต่อสู้จนเกิดเหตุชุลมุนทำให้หนึ่งในตำรวจที่เข้าช่วยระงับเหตุได้รับบาดเจ็บถูกคมมีดเล่มที่ผู้ก่อเหตุถือกำไว้ในมือบาดบริเวณข้อมือเป็นแผล ในที่สุดตำรวจต้องใช้ไม้แข็งเพิ่มกำลังจู่โจม จึงสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้
หญิงอายุ 68 ปี แม่ของชายอายุ 33 ปี เปิดเผยว่าทุกครั้งที่ลูกชายเสพยาบ้า มักจะคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของภายในบ้าน แตก พังเสียหาย จนแทบไม่เหลือ มิหนำซ้ำเธอเองยังเคยถูกลูกชายขู่ฆ่าและใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วแต่ก็ทำใจเรื่อยมาหวังว่าสักวันลูกจะกลับตัวกลับใจได้และทุกอย่างน่าจะดีขึ้น แต่ไม่เป็นดั่งหวังเมื่อลูกชายจุดไฟเผาบ้านพักตากอากาศ ซึ่งเป็นมรดกชิ้นเดียวที่มีเหลืออยู่จนไหม้วอดทั้งหลัง จึงจำใจต้องแจ้งตำรวจจับลูกชายเกรงว่าหากปล่อยไว้อาจเกิดเหตุรุนแรงมากกว่านี้ จนมีใครต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
หลังจากควบคุมตัวชายอายุ 33 ปี ได้แล้ว ตำรวจได้พาไปที่โรงพัก เพื่อตรวจหาตรวจสารเสพติดในร่างกาย ปรากฏว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) พร้อมกันนี้ยังดำเนินคดีค้างเก่าในข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนของผู้อื่น” อีกด้วย ก่อนส่งตัวไปบำบัดอาการติดยาเสพติดที่โรงพยาบาลต่อไป