(5 พ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นางชิดชบา จันร์เทศ อายุ 52 ปี ได้ร้องเรียนกับชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลัง นายคมคาย ลูกชายวัย 22 ปี สมัครทำงานผ่านแอดมินเพจเฟซบุ๊กหางาน ซึ่งระบุว่า มีงานรายได้ดีฝั่งประเทศกัมพูชา ลูกชายจึงสมัครงานและได้รับการติดต่อให้เดินทางข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องทางธรรมชาติพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อกลางเดือน ก.ย.64 และถูกนำไปกักตัวรวมกันเกือบ 1 เดือน ก่อนจะถูกส่งตัวไปทำงานซึ่งเป็นบ่อนออนไลน์ในพื้นที่ จ.สีหนุวิลล์ หรือ จ.กำปงโสม ห่างจากกรุงพนมเปญ 246 กม. และถูกกักขังอยู่ในตึกสูงแห่งหนึ่งไม่ให้ออกไปไหน ถูกยึดบัตรประชาชนและเอกสารส่วนตัวไว้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้น นางชิดชบา ร้องไห้ขอความช่วยเหลือกลัวว่าลูกชายจะได้รับอันตราย เพราะลูกชายทำงานไม่ได้เลยเพราะไม่ถนัด ถูกขังไว้ในตึกไม่ให้ออกไปไหน และถูกทำร้ายร่างกายทุกวัน สงสารลูกจึงอยากให้แม่ขอความช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐ พร้อมกับปักหมุดจุดที่ถูกกักขังตัวไว้ ซึ่งพบว่าอยู่ใกล้กับศูนย์กิจกรรมเพื่อความบันเทิง Goddess of Liberty และ Independence Beach เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ทางผู้สื่อข่าวจึงแนะนำให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับ พ.ต.ท.สงคราม บัวพันธุ์ พนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นหลักฐาน และไปยื่นร้องขอความช่วยเหลือที่กรมการกงสุล เพื่อประสานกับสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เข้าช่วยเหลือ โดยเธอได้อัดคลิปบอกเล่าข้อมูลส่งมาให้ผู้สื่อข่าวได้เผยแพร่ด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.ตราด พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง วรรณวิภา มั่งมีผล รอง ผกก.ตม.จว.ตราด และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตราด ได้ร่วมกันรับตัว นายคมคาย อายุ 22 ปี สัญชาติไทย บุตรชายของนางชิดชบา พร้อมด้วย น.ส.สุจิตรา อายุ 29 ปี สัญชาติไทย อยู่ที่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ไปทำงานออนไลน์ในประเทศกัมพูชา และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตราด เข้าตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อนำไปกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ทาง ผกก.ตม.จว.ตราด ระบุว่า สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ในฐานะ รอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือคนไทย ถูกหลอกให้ไปทำงานออนไลน์ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยผู้ร้องขอความช่วยเหลือเป็นมารดาของ นายคมคายฯ ซึ่งรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายถูกหลอกไปทำงาน โดยกลัวว่า ลูกชายจะถูกทำร้ายหรือทารุณ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายความมั่นคงในประเทศกัมพูชา เพื่อขอความช่วยเหลือและติดตามตัว นายคมคาย ในการนำตัวกลับมายังประเทศไทย
“สำหรับพื้นที่สีหนุวิลล์ เป็นพื้นที่ติดกับ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และติดกับด่านพรมบ้านหาดเล็ก จ.ตราด จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.ตราด ติดตามให้ความช่วยเหลือและประสานงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 3 พ.ย.2564 ได้รับการประสานจากกรมตำรวจ และตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาว่า สามารถช่วยเหลือ นายคมคาย ได้เรียบร้อยแล้ว โดยทางการกัมพูชาอยู่ระหว่างการดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และจะนำตัวดำเนินการผลักดัน-ส่งกลับ มายังราชอาณาจักรไทย ในวันศุกร์ที่ 5 พ.ย.64 ผ่านช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก จ.ตราด ได้อย่างปลอดภัย” พ.ต.อ.เบญจพล กล่าว
ทางด้าน นางชิดชบา แม่ของเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์รายนี้ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมาก ตลอดช่วงที่ลูกชายอยู่ที่ประเทศกัมพูชา รู้สึกเครียด กินนอนไม่ได้เลย กลัวว่าลูกชายจะได้รับอันตราย ตอนนี้ลูกชายถึงด่านกลับเข้าประเทศไทยแล้ว ต้องขอบคุณท่านผู้กำกับ เจ้าหน้าที่ทุก ๆ คน ท่านบิ๊กโจ๊ก ซึ่งคุณแม่ได้เดินทางไปหาท่านเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ท่านก็โทรสั่งเลยให้ช่วยทันที โดยหลังเข้าช่วยได้แล้ว เจ้าหน้าที่คอยติดตามและแจ้งตลอดว่า ลูกชายถึงไหนแล้ว ถือว่าเป็นบุญของลูกชายที่ได้กลับสู่ประเทศไทย จึงอยากจะฝากเตือนคนไทยที่ต้องการไปทำงานที่เขมร อย่าหลงเชื่อคำชักชวนว่า มีรายได้ดี เพราะเหมือนส่งลูกไปลำบาก