สุดงง “วินมอเตอร์ไซค์” ร้องขอความช่วยเหลือ ตกเป็นแพะคดีค้ามนุษย์ ขนต่างด้าวทั้งที่ไม่เคยขับรถตู้มาก่อน เหตุเกิดใน จ.ตราด ทั้งที่ขับวินมอเตอร์ไซค์อยู่กรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2565 ในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ นายพยุง มงคล วินมอเตอร์ไซค์อยู่กรุงเทพฯ หลังร้องขอความช่วยเหลือ ตกเป็นแพะคดีค้ามนุษย์ขนต่างด้าวทั้งที่ไม่เคยขับรถตู้มาก่อน โดยเหตุเกิดใน จ.ตราด ทั้งที่ขับวินมอเตอร์ไซค์อยู่กรุงเทพฯ
นายพยุง มงคล วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ร้องเรียน เล่าว่า วันนั้นแฟนกำลังตั้งร้านขายของ อยู่ๆ ก็มีรถตู้ตำรวจมาแล้วก็เอาหมายจับมาถามหา พี่พยุง โดยบอกว่ามีหมายจับจาก สถานีตำรวจภูธรหนองบอน จ.ตราด ซึ่งเป็นคดีผู้ร่วมค้ามนุษย์ ตอนนั้นพอได้ยินก็คิดว่าน่าจะผิดคน เพราะเพิ่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะเราขับวินต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรม แต่พอได้ดูหมายจับก็เป็นรูปกับชื่อเรา ตอนนั้นตกใจจึงโทร.ถามตำรวจที่อยู่ป้อมข้างๆ ให้ช่วยมาดูว่าเป็นตำรวจจริงไหม ซึ่งยืนยันแล้วว่าใช่
จากนั้น เขาก็เชิญเราไปที่ ตม. แถวเมืองทอง พอทำประวัติเสร็จก็ส่งตัวเราไปท้องที่เกิดเหตุตั้งแต่คืนวันที่ 20 ธ.ค. 2565 พอไปถึงเขาก็ซื้อข้าวให้เรากินแล้วส่งตัวเราเข้าห้องคุมตัวผู้ต้องหา ไม่ได้สอบปากคำเพราะสารวัตรออกเวรไปแล้ว
ทางด้าน จันทร์เพ็ญ ใสดี ภรรยาของผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตอนนั้นไม่ได้ตามแฟนไป พอเขาไม่อยู่ก็งงเป็นไก่ตาแตก นอนร้องไห้ทั้งคืน สับสนเพราะเราไม่รู้เรื่อง จึงตัดสินใจลงคลิปวิดีโอเพื่อวอนให้สื่อช่วย
นายพยุง เล่าต่อว่า จากที่เขาสอบปากคำว่าเราเคยไป จ.ตราดไหม เรายืนยันว่าไม่เคยไป อายุ 50 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเดินทางไป จ.ตราด แต่เคยคุยกับแฟนว่าสักวันหนึ่งจะไปเที่ยวแต่ยังไม่เคยไป สาบานได้เลยว่าไม่เคยไปจริงๆ ส่วนเรื่องขับรถตู้ก็ไม่เคยขับ เพราะเพิ่งขับรถเป็นช่วงที่แฟนออกรถกระบะเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ทางด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด เผยว่า เคยมีกรณีที่ศาลยกฟ้อง เขาเป็นพนักงานขนส่งแห่งหนึ่งแล้วโดนจับว่าลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหาย โดยสมอ้างว่าจะไปซื้อบ้านแล้วก็ไปลักเงิน แล้วตำรวจไปค้นวงจรปิดแล้วพบพนักงานคนนี้ขับรถผ่านมาพอดี จังหวะนั้นมีเขาคนเดียว แล้วตำรวจก็ออกหมายจับเลย ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวก็ไปขอวงจรปิดมาสู้ในศาล สุดท้ายศาลเชื่อจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
ขณะที่ นายปัญญา รอดแก้ว เพื่อนของผู้ร้องเรียน เผยว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ตามที่โดนจับว่าไปก่อเหตุ ยืนยันว่าเพื่อนอยู่ที่วิน เพราะเขาวิ่งวินตลอด เขาเป็นคนขยัน และไม่เคยขับรถตู้ไปตราด
สำหรับหลักฐานที่มีตอนนี้ คือ 1. ภาพถ่ายไปซื้อของที่อัมพวา ในวันที่ถูกกล่าวอ้างว่าไปก่อคดี 2. พยานยืนยันว่าวันนั้นขับวินตั้งแต่เช้าที่บางขุนเทียน ก่อนขับรถกระบะไปซื้อของที่อัมพวา 3.Google Maps 4. คำบอกเล่าว่าเคยใช้เบอร์มือถือนี้แต่ทิ้งไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องไปหาหลักฐานเพิ่ม เพราะเรื่องทิ้งซิมมีเพียงเราพูดอยู่ฝ่ายเดียว
ทนายเกิดผล เผยว่า ถ้าชนะคดีประการแรกถ้าเราตกเป็นผู้ต้องหา เสร็จแล้วศาลยกฟ้องเราเป็นผู้บริสุทธิ์ สำนักงานยุติธรรม จะมีเงินชดเชยเยียวยาให้ตามสิทธิ์ ประการที่ 2 ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่กล่าวอ้างว่าเราไปกระทำความผิด อาจจะเป็นพนักงานสอบสวนหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีถ้าเขาปรักปรำ แต่ถ้าทำตามหน้าที่ก็ไม่เป็นไร และผู้ที่แจ้งข้อกล่าวหาหรือชี้ว่าเราเป็นคนขับรถ
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.