เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ตราด – ผบ.ฉก.นย.ตราด เผยสถานการณ์ไฟป่าชายแดนบ่อไร่ยังไม่คลี่คลาย พบผืนป่าถูกเผาผลาญทำลายแล้วกว่า 2,500 ไร่ พรุ่งนี้เตรียมนำเฮลิคอปเตอร์นำโปรยน้ำดับไฟ คาดวันที่ 7 มี.ค.ลมเปลี่ยนทิศเข้ากัมพูชาสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
จากเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามจากพื้นที่บ้านฉอระกา อ.สัมรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา เข้ามายังพื้นที่ชายแดนไทยบริเวณเนินสี่ร้อย บ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยพบว่ามีผืนป่าถูกไฟเผาผลาญเสียหายกว่า 1,200 ไร่ ซึ่งหหลังเกิดเหตุได้ทำให้มีกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณพื้นที่ป่าห่างชายแดนประมาณ 1.5 กิโลเมตร
จนเจ้าหน้าที่ไฟป่าสถานีควบคุมไฟป่าน้ำตกคลองแก้ว อ.บ่อไร่ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.นย.513 ต้องนำอุปกรณ์ดับเพลิงเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ เพื่อทำทางไฟป้องการลุกลามเพิ่มเติมนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.อ.สันติ เกศาพงศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) ว่าจนถึงวันนี้ ( 4 มี.ค.) สถานการณ์ไฟป่ายังมีความรุนแรงและขยายวงกว้างกินพื้นที่ป่าเสียหายแล้วถึง 2,500 ไร่ แต่อย่างไรก็ตามไฟป่าที่เกิดขึ้นยังไม่กระทบต่อพืชผลการเกษตรของประชาชนในพื้นที่
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไฟป่ายังคงทวีความรุนแรงเป็นเพราะลมที่กรรโชกแรงและมีทิศทางพัดผ่านมายังฝั่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตามจากรายงานของ กรมอุตุวิทยาที่ คาดว่าตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.เป็นต้นไปลมจะเปลี่ยนทิศและการพัดผ่านจะมีทิศทางไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้สถานการณ์ไฟป่าใน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ลดความรุนแรงลดลง
“ แต่ในห้วงเวลาก่อนถึงวันที่ 7 มี.ค.นั้น จังหวัดตราด และ ฉก.นย.ตราด ได้ประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เพื่อนำน้ำขึ้นดับไฟในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ”
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารร้อย.ทพ.นย 514 (ฐานทับทิมสยาม) ยังได้ทำการลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้บริเวณพิกัด tu 530799 โดยพบว่าเปลวไฟได้สงบลงแล้วและไม่มีผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน
ส่วนเจ้าหน้าที่ร้อย.ทพ.นย.514ฯ (ฐานทับทิมสยาม) โดยฐานปฏิบัติการแยกที่ 3 (เจ้าพระยา) ได้ทำการลาดตระเวนด้วยจักรยานยนต์เพื่อตรวจสอบแนวกันไฟเส้นทางเจ้าพระยา – คลองปูนเปียก เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่าไม่ให้ข้ามแนวซึ่งผลการปฏิบัติไม่พบเปลวไฟใกล้แนวกันไฟแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารร้อย.ทพ.นย.513(ฐานบ้านมะม่วง) ที่จัด ได้กำลังพล6 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว 25 นาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินเท้าเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจแนวไฟป่า และดับไฟป่าบริเวณพื้นที่พิกัดTU 4484
ส่วนกำลังพล ชค.ทพ.นย1 ได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ม.7 นำรถไถลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดEODเร่งทำแนวกันไฟป่าบริเวณเส้นทางกระดูกช้าง- คลองปูนเปียก เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าสามารถข้ามแนวไปได้ ขณะร้อย.ทพ.นย.513(ฐานบ้านมะม่วง) รายงาน ความคืบหน้าชุดดับไฟป่า เดินทางถึงที่หมาย บริเวณพิกัดTU 446855 และกำลังช่วยกันทำการดับไฟ และทำแนวกันไฟ